วัดกู่แก้วสามัคคี (๒๕๖๖): โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข กิจกรรมทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เพื่อสร้างแหล่งอาหารชุมชน
วัดกู่แก้วสามัคคี หมู่ ๖ ตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น ได้รับคัดเลือกให้เป็นวัดต้นแบบของ “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข” ประจำตำบลดอนช้าง ซึ่งเริ่มดำเนินการเป็นปีแรก (พ.ศ. ๒๕๖๖) โดยดำเนินการผ่านกิจกรรม จิตอาสาเพื่อพัฒนาวัด และกิจกรรมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ปลูกพืชผักสวนครัวและไม้ผล ภายใต้ชื่อ “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข กิจกรรมทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เพื่อสร้างแหล่งอาหารชุมชน” ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ วัดกู่แก้วสามัคคี โดยการสนับสนุนจาก สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น สำนักงานเกษตรจังหวัดขอนแก่น และอำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น
โดยมีตัวแทนจากส่วนราชการต่างๆ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น องค์การบริหารส่วนตำบล พระสงฆ์ในตำบลดอนช้าง ผู้นำชุมชนทั้ง ๘ หมู่ในตำบลดอนช้าง คณะกรรมการหมู่บ้าน และชาวบ้านในตำบลดอนช้าง มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้รวมจำนวนประมาณ ๔๐ คน
โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ดำเนินการภายใต้แนวคิด
“วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย มีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นเสาหลักในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ วัดจึงถือเป็นสถานที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย” เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นพื้นที่ต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่การเรียนรู้ พื้นที่ทางจิตใจและปัญญา และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมไทย ตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือสังคม การมีจิตอาสา ความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อทำให้เกิดสังคมสุขภาวะและความยั่งยืน
กิจกรรมเริ่มขึ้นในเวลา ๐๙.๓๐ น. พิธีกรได้ชี้แจงความเป็นมาของโครงการและวัตถุประสงค์ จากนั้นได้เรียนเชิญ จ่าสิบเอกนพดล คนตรง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนช้าง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการ ต่อ พระครูวุฒิธรรมภิราม, ดร. (สุบิน จนฺทาโภ) เจ้าคณะตำบลดอนช้าง และเจ้าอาวาสวัดกู่แก้วสามัคคี ที่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อสร้างกลไกความร่วมแรงร่วมใจของวัด ชุมชน และเครือข่ายในท้องถิ่น ๒) เพื่อปฏิรูปพระพุทธศาสนาโดยมุ่งพัฒนาวัด ชุมชนให้เรียบร้อย รื่นรมย์ เป็นศูนย์กลางการพัฒนาจิตใจของชุมชน และ ๓) เพื่อสร้างวัดให้เป็นสถานที่พักในการบำบัดทุกข์และเสริมสร้างความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจ และเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
พระครูวุฒิธรรมภิราม, ดร. (สุบิน จนฺทาโภ) ได้กล่าวสัมโมทนียกถา และได้กล่าวถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาของทางวัด ด้วยเป็นวัดที่ติดกับโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๘๐๐ ปี ที่สำคัญคือ เคยเป็นอโรคยาศาล หรือโรงพยาบาลชุมชน ที่รักษาโรคด้วยสมุนไพรมาก่อน ทางคณะสงฆ์จึงได้คัดเลือกให้วัดกู่แก้วสามัคคีเป็น “แหล่งเรียนรู้วิถีชึวิตอีสานพื้นบ้าน ของเก่าเล่าอดีตโบราณสถานปรางค์กู่แก้ว” และได้รับเลือกให้เป็น “ศูนย์เพาะพันธุ์ปลูกพืชสวนครัว” ในระยะเวลา ๕ ปี จากนี้ไป
อีกทั้งท่านเจ้าอาวาสมีความสนใจและเป็นหมอสมุนไพรเช่นกัน จึงได้มีความพยายามที่จะส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการรักษาแผนโบราณด้วยสมุนไพรเชื่อมโยงกับอโรคยาศาล “กู่แก้ว” โดยมีวัดกู่แก้วสามัคคีเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และปลูกสวนสมุนไพร ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้ว ๓ ปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่องในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา
วัดกู่แก้วสามัคคี เป็นศูนย์รวมด้านจิตใจของชุมชนอยู่แล้ว ในปัจจุบันมีความเจริญเข้ามาถึงวัดแตกต่างจากเมื่อ ๓ ปีที่ผ่านมา มีผู้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปรางค์ “กู่แก้ว” มากขึ้น รวมทั้งผู้คนที่สัญจรไป-มา ก็ได้มาแวะเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ ไหว้พระ ไหว้ปรางค์กู่ แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางทางกายภาพและจิตใจของผู้คนในตำบลดอนช้าง ซึ่ง “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข” ในครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ร่วมมือร่วมใจ และจะต่อยอดโครงการต่างๆ ต่อไปในอนาคต
จากนั้นทุกท่านได้ร่วมทำกิจกรรมปลูกพืชผักสวนครัว สมุนไพร และไม้ผล ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ร่วมกัน โดยพืชผักที่นำมาปลูกส่วนใหญ่นำมาจากครัวเรือนของตน ได้แก่ ชะอม ถั่ว แตง มะเขือพวง ตะไคร้ กล้วย มะนาว มะละกอ มะพร้าว พืชผักสวนครัวต่างๆ เป็นต้น รวมถึงเมล็ดพันธุ์ผักส่วนหนึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากเกษตรจังหวัดขอนแก่น กิจกรรมนี้เสร็จสิ้นลงในเวลา ๑๑.๐๐ น.
วัดกู่แก้วสามัคคี มีความพร้อมในด้านสถานที่ เป็นพื้นที่สัปปายะ (มีสภาพเหมาะสม เกื้อกูล) สำหรับชุมชนต่างๆ ในตำบลดอนช้าง ท่านเจ้าอาวาส พระครูวุฒิธรรมภิราม, ดร. (สุบิน จนฺทาโภ) ก็เป็นพระนักพัฒนา อีกทั้งกิจกรรมมีความเชื่อมโยงกับความสำคัญของสถานที่ในอดีต (อโรคยาศาล) ความร่วมมือร่วมใจในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกิจกรรม “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข” ที่จะทำให้วัด กลายเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ของตำบลอย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมความรักความสามัคคี และสร้างแหล่งอาหารในชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข “วัดสวยด้วยความสุข.” แนวปฏิบัติโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (๓-๕-๗-๙ สู่ความยั่งยืน). สืบค้นเมื่อ ๑๙ มิถุนาย ๒๕๖๖, จาก: https://wat3579.com/blog/blog/detail/var/64r2b4
“วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย มีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นเสาหลักในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ วัดจึงถือเป็นสถานที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย” เพื่อส่งเสริมให้วัดเป็นพื้นที่ต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่การเรียนรู้ พื้นที่ทางจิตใจและปัญญา และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมไทย ตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือสังคม การมีจิตอาสา ความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อทำให้เกิดสังคมสุขภาวะและความยั่งยืน
































