งานบุญวันมาฆบูชาและบุญข้าวจี่ ประจำปี ๒๕๖๕ ที่วัดกู่แก้วสามัคคี ตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น
วันเพ็ญเดือนสามของทุกๆ ปี ถือเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก อันเนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา ที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ท่ามกลางพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ที่มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ เวฬุวันมหาวิหาร อันเป็นพระอารามแห่งแรกในพระพุทธศาสนา แน่นอนว่าวันนี้ย่อมมีความสำคัญยิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่นิยมทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และเวียนเทียนในตอนเย็น รวมทั้งปฏิบัติกิจกรรมบำเพ็ญบุญกุศลต่างๆ ตลอดทั้งวัน
ความสำคัญของ “วันมาฆบูชา” หรือ “วันจาตุรงคสันนิบาต” เนื่องจากเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ๔ ประการ ดังนี้ ๑. พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาชุมนุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ๒. พระภิกษุทั้งหมดเป็น “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” คือผู้ที่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ๓.พระภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา และ ๔.วันที่พระภิกษุเหล่านั้นมาชุมนุมกันตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓)
สำหรับชาวตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น ถือปฏิบัติตามฮีตสิบสองคลองสิบสี่ จารีตประเพณีของคนอีสานที่สืบทอดมาแต่อดีต โดยในเดือนสามจะตรงกับ “บุญข้าวจี่” อันเป็นบุญประเพณีเนื่องในวันมาฆบูชานั่นเอง ในปีนี้ตรงกับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
โดยในตอนเช้าชาวบ้านในแต่ละชุมชนจะปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อน เสียบไม้ไผ่ที่เหลาเป็นแท่งกลม นำไปย่างหรือปิ้งไฟหรือจี่ ให้พอเกรียม แล้วชุบไข่ ย่างไฟอีกครั้งจนสุก นำไปรวมไว้ในศาลาวัดแต่ละวัดพร้อมกับการถวายพระกระยาหารเช้าแด่พระสงฆ์ (จังหัน) สำหรับวัดกู่แก้วสามัคคีท่านเจ้าอาวาส พระครูวุฒิธรรมาภิราม นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ให้ศีลให้พร แล้วฉันข้าวจี่ดังกล่าว หลังจากถวายพระเสร็จก็แบ่งปันกันกินในกลุ่มผู้มาร่วม
ในช่วงสายๆ ประมาณ ๙ นาฬิกา ทางวัดได้จัดให้มี “การบวชชีพราหมณ์” โดยมีพุทธบริษัท จำนวน ๑๘ คน ส่วนใหญ่มาจากชุมชนในตำบลดอนช้าง และจากตำบลต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น โดยการนุ่งขาวห่มขาวและปฏิบัติธรรมเป็นเวลา ๑ วัน ๑ คืน จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
จากนั้นได้ทำพิธีสู่ขวัญข้าวที่เรียกว่า “บุญกุ้มข้าวใหญ่” โดยการถวายข้าวเปลือกที่เป็นผลผลิตเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ ชาวบ้านนำมารวบรวมมอบถวายให้วัด รวมได้ถึง ๕๐ กระสอบ เพื่อบูชาแม่พระโพสพและเป็นการทำบุญถวายวัด ปิดท้ายด้วยกิจกรรมในตอนค่ำ ประมาณ ๑๙ นาฬิกา คือ การเวียนเทียน รอบปรางค์กู่ และทำวัตรเย็น ก่อนแยกย้ายกันไปด้วยความอิ่มบุญที่ได้ร่วมปฏิบัติกันมาตลอดทั้งวัน สาธุ สาธุ สาธุ!
ขอบคุณเรื่องและภาพจาก ผู้ใหญ่ประกาศ เสาเวียง
ในโอกาสนี้พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาฏิโมกข์” อันเป็นหลักคำสอนสำคัญ ได้แก่ ๑.จุดมุ่งหมายหรืออุดมการณ์อันสูงสุดของบรรพชิตและพุทธบริษัท คือ นิพพาน ๒. วิธีการเข้าถึงจุดมุ่งหมายนั้น ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส และ ๓.หลักปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ๖ ประการ ได้แก่ การไม่กล่าวร้ายใคร การไม่ทำร้ายใคร การมีความสำรวมในปาฏิโมกข์ทั้งหลาย การเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร การรู้จักที่นั่งนอนอันสงัด และบำเพ็ญเพียรในอธิจิต
อ่านเพิ่มเติม: